รุ่นย่อย IS250 ปี 2006-2012 มีกี่รุ่นย่อย

1 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รุ่นย่อย IS250 ปี 2006-2012 มีกี่รุ่นย่อย

จุตสังเกตุแต่ละรุ่นย่อยมีอะไรบ้างป้ายแดงราคาเท่าไหร่ มาดูกันครับผม
และนี่คือรถที่แอดมินคิดว่าคุ้มค่าที่สุดของ Lexus ในตอนนี้ เพราะราคาสุดแสนจะน่ารัก มือสองเหลือแค่ประมาณ 2-4 แสน แต่ Preformance ที่ได้ โอ้วมันเหลือเชื่อ เป็นรุ่นแรกที่ทำให้แอดมินหลงรัก Lexus ด้วยความนุ่ม เงียบ ออฟชั่นอำนวยความสะดวกมีระดับนึงเลย เมื่อเทียบกับรถใหม่ๆบางรุ่น เผลอๆเยอะกว่าด้วย เครื่องเสียงระดับตำนาน Mark Levinson แถมไม่ค่อยเสียอีก 5 ปี วิ่งเอง 120,000 โล ซ่อมไปแค่ประมาณ 50,000 บาทเอง ที่สำคัญของแต่งเยอะมาก ทำให้รู้สึกว่ารถใหม่ขึ้นทุกปีเลย แอดมินเปลี่ยนของแต่งสนุกเลย ยิ่งแต่งยิ่งดูสวย ใหม่ ทันสมัย ขนาดที่ว่า ภรรยาด่าตอนซื้อมา เมิงจะเอามาซ่อมเหรอ เค้าไม่กล้าขับหลอกนะ เก่าและแก่ แต่ทุกวันนี้ ไปไหน 2 คน ขอเอา IS250 ไปนะ มันสุด สวย สปอร์ท สังเกตุได้จากใบสั่ง ^^
เล่าซะยาวเลย สตอรี่เกี่ยวกับ IS250 เยอะมาก เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังเรื่อยๆนะครับผม เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจ รุ่นย่อยก่อนไมเนอร์เชนจ์และไมเนอร์เชนจ์กันก่อนครับ
โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ไมเนอร์เชนจ์ 3 Look ครับ
1.ก่อนไมเนอร์เชนจ์ ปี 2006-2008
2.ไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกครับ ปี 2009
3.ไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่ 2 ปี 2010 up
ต่อไปมาดูจุดสังเกตของแต่ละรุ่นกันครับ
ก่อนไมเนอร์เชนจ์ Lexus IS250 2006-2008 มี 3 รุ่นย่อยครับ
1.IS250 Luxury ป้ายแดงประมาณ 3.1 ล้านบาท
2.IS250 premium ป้ายแดงประมาณ 3.4 ล้านบาท
3.IS250 premium sunroof ป้ายแดงประมาณ 3.5 ล้านบาท
จุดสังเกตแต่ละรุ่น
1.IS250 Luxury (รูปที่ 1)
จุดสังเกต
ไม่ใช่เครื่องเสียง Mark levinson เกียร์และขอบประตูไม่ได้เป็นลายไม้ครับ
2.IS250 Premium (รูปที่ 2)
จุดสังเกต
1.เครื่องเสียง Mark levinson สังเกตได้เลยครับ จะมีชื่อบอก อันนี้สำคัญมากครับสำหรับผม เพราะชอบฟังเพลงเสียงเพราะๆ และค่าตัววิทยุสมัยนั้นเรียกได้ว่า โค ตะ ระ ครับ(รูปที่ 3)
2.ลายไม้ตรงเกียร์ และ ขอบประตูครับ (รูปที่ 4)
3.แอร์เป่าตูด อันนี้ขอบอกชอบมากครับ เป็นคนขี้ร้อนครับ เจอเป่าตูดไปฟินตลอดการเดินทาง แต่ไม่สะดวกเวลาปวดตดนะครับ กรุณาปิดแอร์เป่าตูดก่อนตด หากมีคนนั่งข้างๆครับ
4.เบาะเมมโมรี่ อันนี้ก็ชอบครับ รถใช้กับแฟน ขึ้นรถทีไรปรับเบาะทุกที เมื่อก่อนใช้รถไม่มีเบาะเมมโมรี่ กว่าจะได้เดินทางนั่งปรับอยู่พอสมควรเลยครับ เพราะมันต้องปรับกระจกข้างด้วย (รูปที่ 5)
5.ไฟกระดิก AFS อันนี้แอดมินว่าเกินจำเป็น เจ้าของรถหลายคนไม่รู้ว่ารถตัวเองมีระบบนี้ครับ
6.ล้อแม็ค จะเป็นลายก้านคู่ครับผม
3.IS250 Premium sunroof (รูปที่ 6)
จุดสังเกต
ออฟชั่นที่ตัวท๊อปสุดมีเพิ่มขึ้นมา คือ ซันรูฟครับ อย่างเดียวเพียวๆ เท่าที่แอดมินรู้ตอนนี้ครับผม
ไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก Lexus IS250 2009 มี 3 รุ่นย่อยครับ
1.IS250 Luxury ป้ายแดงประมาณ 3.1 ล้านบาท
2.IS250 premium ป้ายแดงประมาณ 3.4 ล้านบาท
3.IS250 premium sunroof ป้ายแดงประมาณ 3.5 ล้านบาท
จุดสังเกต
1.ระบบเกียร์ แพดเดิลชิป สามารถคิกดาวน์ได้เลยในโหมด D ครับ ไม่ต้องเปลี่ยนเป็น s เหมือนก่อนไมเนอร์เชนจ์ครับ
2.ไฟหลังเปลี่ยนมีลักยิ้มครับ (รูปที่ 7)
3.ไฟเลี้ยวที่กระจกข้าง (รูปที่
4.สีลายไม้จะดูอ่อนลงและมีโทนอมเขียวเล็กน้อย แต่ในภาพที่ถ่ายอาจจะสังเกตเห็นความแตกต่างได้ยาก เนื่องจากแสงของกล้องหรือโทรศัพท์ที่แต่ละคนใช้ในการถ่ายอาจทำให้สีเพี้ยนไปบ้างครับ (รูปที่ 9)
ต่อไปเป็นจุดสังเกตรุ่นย่อย
1.IS250 Luxury ป้ายแดงประมาณ 3.1 ล้านบาท(รูปที่ 10)
2.IS250 premium ป้ายแดงประมาณ 3.4 ล้านบาท(รูปที่ 11)
มีเครื่องเสียง Mark lavinson ลายไม้ตรงเกียร์ และขอบประตูครับ

3.IS250 premium sunroof ป้ายแดงประมาณ 3.5 ล้านบาท (รูปที่ 12)
มีซันรูฟเพิ่มมาครับ

ไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่ 2 Lexus IS250 2010 up มี 3 รุ่นย่อยครับ
1.IS250 Luxury ป้ายแดงประมาณ 3.1 ล้านบาท
2.IS250 premium ป้ายแดงประมาณ 3.4 ล้านบาท
3.IS250 premium sunroof ป้ายแดงประมาณ 3.5 ล้านบาท
จุดสังเกต
จะเป็นไมเนอร์ที่แปลกๆครับ เท่าที่สังเกตออฟชั่นจะเหมือนปี 2009 เลย เเต่ mark levinson หายไป ได้วิทยุ Pioneer แทน ไม่รู้ว่าลดออฟชั่นลงเพื่อลดต้นทุนหรือป่าว ฉะนั้น ไมเนอร์เชนจ์ปี 2009 แอดมินคิดว่าน่าเล่นที่สุด เพราะยังมี mark levinson อยู่ (รูปที่ 13)
จบแล้วครับผม เพื่อนๆท่านใดกำลังมองหาอยู่หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่ดีเพื่อใช้ในการตัดสินใจนะครับผม
ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว Lexus ครับผม

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้